มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2533 [1] นับเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (Autonomous University) แห่งแรกของประเทศไทย ที่ริเริ่มรูปแบบใหม่ในการบริหารจัดการโดยเน้นความคล่องตัวและอิสระ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นในขณะนั้น
ในยุคแรกเริ่ม มทส. ประกอบด้วย 5 สำนักวิชา (Institute) ซึ่งมีฐานะเทียบเท่าคณะ (Faculty) ได้แก่ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ สำนักวิชาเทคโนโลยีสังคม สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร สำนักวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม และสำนักวิชาเทคโนโลยีทรัพยากร [1] โดยสำนักวิชาเหล่านี้ได้วางรากฐานอันแข็งแกร่งให้กับมหาวิทยาลัยในการผลิตบัณฑิตคุณภาพสูงสู่การเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ
ปี พ.ศ. 2535 [2] นับเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของ มทส. เนื่องจากมีการแบ่งส่วนงานภายในของสำนักวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ออกเป็น 7 สาขาวิชา (School) ซึ่งมีฐานะเทียบเท่าภาควิชา (Department) อันได้แก่:
พร้อมกันนี้ ยังได้แบ่งส่วนงานของสำนักวิชาเทคโนโลยีทรัพยากร ออกเป็น 4 สาขาวิชา ดังนี้:
การเติบโตของ มทส. ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในปี พ.ศ. 2536 [3] ได้มีการขยายขอบเขตความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้วยการจัดตั้งสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา เข้าเป็นส่วนงานใหม่ของสำนักวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม
ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2537 [4] มทส. ได้ปรับโครงสร้างของสำนักวิชาเทคโนโลยีทรัพยากรอีกครั้ง โดยยุบส่วนงานที่ชื่อสาขาวิชาเทคโนโลยีโลหะและวัสดุ แล้วแยกออกเป็น 4 ส่วนงานใหม่ เพื่อให้การเรียนการสอนมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย:
นอกจากนี้ ยังได้เปลี่ยนชื่อส่วนงานเดิมจากสาขาวิชาเทคโนโลยีเหมืองแร่และเทคโนโลยีธรณี เป็น สาขาวิชาเทคโนโลยีธรณี เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นด้านธรณีวิทยามากขึ้น
ความก้าวหน้าทางวิชาการของ มทส. ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2537 [5] สำนักวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ได้จัดตั้งส่วนงานภายในเพิ่มเติมอีก 4 สาขาวิชา เพื่อตอบสนองต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ได้แก่:
ขณะเดียวกัน ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2537 [6] สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร ก็ได้มีการจัดตั้งส่วนงานใหม่ขึ้น คือ สาขาวิชาวิศวกรรมเกษตร เพื่อผสมผสานความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์ เข้ากับการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศ
และเพื่อให้ชื่อของส่วนงานสอดคล้องกับเนื้อหาการเรียนการสอนในสมัยนั้นมากยิ่งขึ้น ในปี พ.ศ. 2538 [7] สำนักวิชาเทคโนโลยีทรัพยากร จึงได้ปรับเปลี่ยนชื่อส่วนงานภายใน ดังนี้:
ซึ่งในเวลาต่อมา สำนักวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อส่วนงานภายในด้วยเช่นกัน นั่นคือ:
เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2542 [10] ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ของ มทส. ด้วยการปรับโครงสร้างครั้งยิ่งใหญ่ ที่นำไปสู่การจัดตั้งสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยการปรับโครงสร้างในครั้งนี้ เป็นการควบรวม 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สำนักวิชาเทคโนโลยีทรัพยากร และสาขาวิชาวิศวกรรมเกษตรจากสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร เข้าไว้ด้วยกัน
สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ จึงเปรียบเสมือนศูนย์รวมแห่งองค์ความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์ ที่ประกอบด้วย 20 สาขาวิชา (ส่วนงาน) ครอบคลุมหลากหลายแขนงวิชา พร้อมขับเคลื่อนการผลิตบัณฑิตคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการกำลังคนของประเทศ
พร้อมกันนี้ ยังได้มีการปรับเปลี่ยนชื่อของส่วนงานภายใน เพื่อให้สอดคล้องกับการเป็นองค์กรที่โดดเด่นในการสร้างกำลังคนและความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ของประเทศ ดังนี้:
แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 2 ทศวรรษ แต่ มทส. ก็ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนา ในปี พ.ศ. 2558 [11] จึงเกิดการปรับโครงสร้างครั้งสำคัญอีกครั้ง โดยสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ได้ยุบ 4 ส่วนงาน ได้แก่:
และได้เพิ่มส่วนงานใหม่ คือ สาขาวิชาเทคโนโลยีการออกแบบ เข้ามาเติมเต็มองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์ ให้มีความทันสมัยและตอบโจทย์โลกยุคใหม่
ปัจจุบัน สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ เป็น 1 ใน 9 สำนักวิชาของ มทส. และประกอบด้วย 17 สาขาวิชา (ส่วนงาน) ที่พร้อมผลิตบัณฑิตคุณภาพสูง สู่ตลาดแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเดินทางกว่า 3 ทศวรรษของสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มทส. เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์องค์ความรู้ผลักดันงานวิจัย และบ่มเพาะบัณฑิต ให้เป็นทรัพยากรบุคคลอันทรงคุณค่า เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
รวบรวมข้อมูลและเรียบเรียงโดย
อ. ดร.คมศัลล์ ศรีวิสุทธิ์
อ้างอิง:
[1] พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี พ.ศ. 2533
[2] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน พ.ศ. 2535
[3] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน พ.ศ. 2536
[4] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน พ.ศ. 2537
[5] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2537
[6] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2537
[7] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน พ.ศ. 2538
[8] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2539
[9] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2542
[10] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2542
[11] ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เรื่อง การแบ่งส่วนงาน (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2558
วาระการดำรงตำแหน่ง | สำนักวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม | สำนักวิชาเทคโนโลยีทรัพยากร | สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ |
2 พ.ย. 2535 – 23 เม.ย. 2536 | ผศ. ดร.ทวี เลิศปัญญาวิทย์ (รักษาการ) |
รศ. ดร.เกษม ปราบริปูตลุง (รักษาการ) |
|
24 เม.ย. 2536 – 15 มิ.ย. 2542 | รศ. ดร.เกษม ปราบริปูตลุง | ||
24 เม.ย. 2536 – 27 ก.พ. 2543 | ผศ. ดร.ทวี เลิศปัญญาวิทย์ | ||
16 มิ.ย. 2542 – 27 ก.พ. 2543 | รศ. ดร.เกษม ปราบริปูตลุง | ||
28 ก.พ. 2543 – 2 ก.ย. 2544 | ผศ. ดร.ทวี เลิศปัญญาวิทย์ | ||
3 ก.ย. 2544 – 2 ก.ย. 2548 | รศ. น.อ. ดร.วรพจน์ ขำพิศ | ||
3 ก.ย. 2548 – 4 ก.ย. 2552 | รศ. น.อ. ดร.วรพจน์ ขำพิศ | ||
5 ก.ย. 2552 – 30 ก.ย. 2554 | รศ. น.อ. ดร.วรพจน์ ขำพิศ | ||
1 ต.ค. 2554 – 30 ก.ย. 2558 | รศ. ร.อ. ดร.กนต์ธร ชำนิประศาสน์ | ||
1 ต.ค. 2558 – 30 ก.ย. 2562 | รศ. ร.อ. ดร.กนต์ธร ชำนิประศาสน์ | ||
1 ต.ค. 2562 – 20 ธ.ค. 2562 | รศ. ร.อ. ดร.กนต์ธร ชำนิประศาสน์ | ||
21 ธ.ค. 2562 – 26 ม.ค. 2567 | รศ. ดร.พรศิริ จงกล | ||
27 ม.ค. 2567 – ปัจจุบัน | รศ. ดร.พรศิริ จงกล |