มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เป็นสถาบันการศึกษาที่โดดเด่นทั้งด้านการเรียนการสอนและสภาพแวดล้อมตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา บนพื้นที่กว่า 7,800 ไร่ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ สระน้ำ และรายล้อมไปด้วยพื้นที่สีเขียวด้วยบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตกับการศึกษา
มหาวิทยาลัยออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตของนักศึกษา โดยมีทั้งลานกิจกรรม สนามกีฬา เส้นทางปั่นจักรยาน และศูนย์ฟิตเนสที่ทันสมัย โดยนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย และมหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ผ่านการจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น การปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว การส่งเสริมการแยกขยะและการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการรณรงค์ใช้พลังงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า
ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีจึงเป็นสถานที่ที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ในบรรยากาศที่ผสมผสานกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
“อาคารสุรนิทัศน์” หรือที่เรียกกันว่า “แอมฟิเธียเตอร์” เป็นสถานที่สำหรับจัดคอนเสิร์ต การแสดงละคร หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับศิลปะและความบันเทิง โดดเด่นด้วยการออกแบบพื้นที่เวทีและที่นั่งที่ลาดเอียงแบบขั้นบันได ทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นเวทีได้อย่างชัดเจน โดยสถานที่แห่งนี้รองรับผู้เข้าชมได้จำนวนมาก พร้อมทั้งมีระบบแสง สี เสียงที่ทันสมัย เพื่อให้การแสดงมีคุณภาพและสร้างความประทับใจสูงสุด นอกจากนี้ ตัวอาคารยังมีลักษณะเปิดโล่ง ช่วยให้เสียงกระจายได้ดีและเหมาะสำหรับการแสดงทุกประเภท
เส้นทางนี้ยังเป็นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น งานวิ่งเฉลิมพระเกียรติและโครงการ RUN2GETHER ที่พาผู้พิการทางสายตาร่วมวิ่งไปด้วยกัน นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่คนรักสุนัขและครอบครัวมานั่งปิกนิกหรือวิ่งเล่นในยามเย็น สำหรับนักศึกษาที่ต้องการผ่อนคลาย การวิ่งที่นี่เป็นทางเลือกที่ดีในการรักษาสุขภาพและความสดชื่น
สนามกีฬา
“อุโมงค์ต้นไม้” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เป็นหนึ่งในอุโมงค์ต้นไม้ที่สวยและร่มรื่นที่สุดในประเทศไทย โดยต้นจามจุรีจะโน้มกิ่งก้านเข้าหากันจนทำให้เกิดทางเดินร่มเย็น บริเวณนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางที่มุ่งไปยังฟาร์มของมหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้ถนนดูเหมือนอุโมงค์ธรรมชาติขนาดย่อม เต็มไปด้วยความเขียวขจี กลายเป็นจุดที่นิยมสำหรับการถ่ายภาพ Pre-Wedding ถ่ายชุดครุยรับปริญญา และเช็คอิน เพราะบรรยากาศที่สวยงามและร่มรื่น ทำให้ทุกภาพที่ถ่ายออกมาดูพิเศษและน่าจดจำ
“สัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี” เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวมหาวิทยาลัย โดยยึดมั่นในจริยวัตรแห่งมทส. ซึ่งประกอบด้วยความซื่อตรง อ่อนน้อม ความสะอาด และความประหยัด
ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมีองค์ท้าวสุรนารีเป็นจุดศูนย์กลาง แสดงถึงอุดมการณ์และพันธกิจหลักของสถาบัน สะท้อนถึงความเคารพและศรัทธาต่อท้าวสุรนารี ผู้เป็นวีรสตรีของชาติ ลวดลายเส้นโค้งที่ทอดตัวเป็นคู่ ขนานกันข้างละ 4 เส้น สื่อถึงพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงต่อเนื่องและความก้าวหน้าที่ไม่มีจุดสิ้นสุด นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบในเชิงสัญลักษณ์ของพืชพรรณและเฟืองจักร ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม ที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน
หอสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “หอสุรนภา” และมีชื่อเล่นว่า “หอแห้ว” เป็นอาคารที่มีความสูงที่สุดในมหาวิทยาลัย ด้วยความสูง 82.30 เมตร หรือเทียบเท่ากับอาคาร 25 ชั้น ภายในมีลิฟต์สำหรับอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาเยี่ยมชมและบุคลากร
การก่อสร้างหอสุรนภาเริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2536 และได้รับการออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดอกบัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของปัญญาและความบริสุทธิ์ โดยหอสุรนภาได้รับการก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของงานแสดงนิทรรศการเกษตรและอุตสาหกรรมโลกปี 2538 (World Tech ’95) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 พฤศจิกายน – 16 ธันวาคม พ.ศ. 2538
“ศูนย์บรรณสาร” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเรียนการสอน การวิจัย และกิจกรรมต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย โดยให้บริการห้องสมุดและสื่อการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และการพัฒนาทางวิชาการของนักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากร
นอกจากนี้ ศูนย์บรรณสารยังมุ่งเน้นการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและให้บริการที่ทันสมัย สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับแนวทางการบริหารจัดการและการปฏิบัติงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยนำแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน
“จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. โคราช” หรือ “Science Square Korat” เป็นความร่วมมือทางวิชาการระหว่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) กับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ภายใต้โครงการจัตุรัสวิทยาศาสตร์ภูมิภาค นับเป็นแห่งที่ 3 ของประเทศไทย และถือเป็นแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ที่รวบรวมศาสตร์ความรู้ด้านอาชีพทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ผ่านนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และการเกษตร ซึ่งเชื่อมโยงกับองค์ความรู้ของสาขาวิชาต่าง ๆ ใน มทส. เพื่อนำมาต่อยอดและถ่ายทอดไปสู่การศึกษาที่เหมาะสมต่อการพัฒนาประเทศ